สำหรับ โรคเส้นเลือดในสมองตีบ นั้นเรียกได้ว่าเป็นฆาตกรที่แอบย่องเข้ามาอย่างเงียบๆ คร่าชีวิตผู้คนได้อย่างเลือดเย็นเลยทีเดียว ประกอบกับการใช้ชีวิตของผู้คนในสังคมปัจจุบันที่ใช้ชีวิตกันอย่างเร่งรีบ เร่งด่วนไปเสียทุกอย่าง ทำให้ภาวะเครียดเริ่มแทรกซึมเข้าสู่ร่างกายทีละน้อยๆ สะสมเข้าทุกวันจนกลายเป็นความเครียดถาวร
โรคเส้นเลือดในสมองตีบเกิดขึ้นจากอะไร?
นอกจากความเร่งรีบจนเกิดคำอ้างว่าไม่มีเวลาออกกำลังกายกันแล้ว อาหารในแต่ละมื้อที่ทานกันก็เร่งด่วนตามไปด้วยอย่างพวกบรรดาอาหารขยะ หรือฟาสต์ฟู้ดทั้งหลาย กลายเป็นตัวเลือกเมนูยอดฮิตติดอันดับที่สั่งกินกันทุกวันจนกลายเป็นนิสัย
นั่นจึงเป็นสาเหตุเส้นเลือดในสมองเกิดการตีบอย่างช้าๆ จากแคลเซียมและตะกอนไขมันในร่างกายที่มาเกาะรวมตัวกัน ทำให้รูหลอดเลือดเกิดการอุดตันจนกระทั่งเริ่มแคบลงๆ และสุดท้ายเลือดก็ไม่สามารถไปเลี้ยงสมองได้เพียงพอ
อาการเบื้องต้นของภาวะหลอดเลือดในสมองตีบที่ควรรู้
- สายตาเริ่มเกิดการพร่ามัว หรือเห็นภาพซ้อน
- เวียนศีรษะ หรือปวดศีรษะอย่างรุนแรง
- มือไม้และแขน-ขาอ่อนแรง ไม่มีเรี่ยวแรง
- เริ่มพูดไม่ชัด หรือลำบากเวลาพูด และฟังอะไรไม่ค่อยรู้เรื่อง
- หน้าเริ่มเบี้ยว
- ทรงตัวไม่ค่อยอยู่ เดินเซไปเซมา
- รู้สึกเริ่มชาไปครึ่งซีกของร่างกาย
ใครมีโอกาสเป็นและมีวิธีป้องกันอย่างไร?
สำหรับผู้ที่สุ่มเสี่ยงมากต่อการเป็นโรคเส้นเลือดในสมองตีบ คือ ผู้ที่เป็นโรคเบาหวาน, ความดันโลหิตสูง, โรคหัวใจต่างๆ หรือภาวะอ้วน ซึ่งต้องปฏิบัติตัวป้องกันโรคอย่างเคร่งครัดดังนี้
– ประการแรกเลยคือ จัดการกับความอ้วนด้วยการออกกำลังกายเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอ บวกกับการควบคุมอาหารโดยการจำกัดปริมาณอาหารในแต่ละมื้อให้ทานพออิ่ม ไม่ใช่ทานเพราะอยาก
– งดเหล้า งดบุหรี่อย่างถาวร อาจเริ่มโดยการค่อยๆ ลดปริมาณลงวันละนิดวันละน้อย (ลด ละ เลิก)
– ควบคุมระดับไขมันและน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ
– หมั่นไปตรวจเช็คร่างกายเป็นประจำ
ดังนั้น หากเริ่มมีอาการใดๆ เหล่านี้ อย่าได้นิ่งนอนใจ หรือผัดวันประกันพรุ่งเชียวนะคะ อันตรายมากจริงๆ ค่ะ ควรรีบไปพบคุณหมอรักษากันแต่เนิ่นๆ อย่าปล่อยทิ้งไว้ให้เนิ่นนานจนสายเกินแก้นะคะ
ขอขอบคุณภาพจาก pixabay และ reachingutopia