มีใครเคยตื่นนอนขึ้นมาตอนเช้าแล้วรู้สึกว่าตัวดูบวมๆ ตึงๆ อืดๆ แบบผิดปกติกว่าทุกวันบ้างมั้ยคะ ยิ่งตอนใส่เสื้อผ้าแล้วยิ่งรู้สึกอึดอัด ทั้งๆ ที่เพิ่งตื่นนอนขึ้นมาแท้ๆ ยังไม่ได้มีอะไรตกถึงท้องเลยด้วยซ้ำ ถ้าหากรู้สึกแบบนี้ล่ะก็ แสดงว่าอาการบวมน้ำกำลังจู่โจมคุณเข้าแล้วล่ะค่ะ
แล้วอาการบวมน้ำเกิดจากอะไร มาดูกันเลยค่ะ
สำหรับอาการบวมน้ำนั้นเกิดจากความไม่สมดุลของฮอร์โมนและของเหลวในร่างกายที่แทรกซึมเข้าไปตามช่องว่างระหว่างเซลล์ของเรา ทำให้ร่างกายเกิดการสะสมน้ำไว้ แทนที่จะไหลเวียนอยู่ตามทางเดินของหลอดเลือดหรือน้ำเหลืองตามปกติ ซึ่งเมื่อของเหลวดังกล่าวซึมเข้าสู่เซลล์ในร่างกายของเรา ก็ทำให้ร่างกายเราเกิดอาการบวมน้ำขึ้น
โดยภาวะบวมน้ำนี้มักเกิดในคนที่ชอบดื่มพวกแอลกอฮอล์ พักผ่อนน้อย หรือทานอาหารรสจัดทั้งหลาย มีโซเดียมเยอะ รวมทั้งในคนที่ต้องทำงานยืนนานๆ หรือการนั่งห้อยขา และขณะมีรอบเดือน โดยจะบวมตามอวัยวะต่างๆ ที่เห็นได้ชัดเจนเลยก็คือ ใบหน้า, ต้นขา และแขน ซึ่งหากปล่อยทิ้งไว้ก็อาจทำให้น้ำหนักตัวเพิ่มจนนำไปสู่ภาวะอ้วนได้นะคะ
วันนี้เราจึงนำเคล็ดลับดีๆ ของการลดอาการบวมน้ำมาฝากกันค่ะ
– เลิกรับประทานอาหารที่มีรสจัดต่างๆ โดยเฉพาะอาหารที่มีโซเดียมหรือความเค็ม แล้วเจ้าความเค็มนี่แหละที่จะเข้าไปกระตุ้นให้ร่างกายของเรากักเก็บน้ำไว้ ทำให้ไตของเราต้องแบกรับภาระหน้าที่ในการขับออกมา ซึ่งนอกจากจะทำให้เกิดอาการตัวบวมแล้ว ยังทำให้เกิดโรคไตได้อีกด้วยนะคะ
– ดื่มน้ำให้มากในทุกวันจนเป็นนิสัย เพราะน้ำจะเข้าไปช่วยขับปัสสาวะ รวมทั้งขับสารพิษ หรือโซเดียมให้ออกจากร่างกายได้ดี
– ขณะนอนให้ลองยกเท้าให้สูงขึ้น ก็จะช่วยให้ไตสามารถขับน้ำที่ขังอยู่บริเวณขาของเราออกมาได้มากขึ้น
– ออกกำลังกายโดยการว่ายน้ำ เนื่องจากการว่ายน้ำจะมีแรงดันของน้ำซึ่งช่วยทำให้น้ำส่วนที่เกินหรือขังอยู่ภายในร่างกายของเราออกมาจากเนื้อเยื่อตามใบหน้า, แขน หรือขาได้ค่ะ
– ให้รับประทานอาหาร หรือผักผลไม้จำพวกกล้วย, ขึ้นฉ่าย, อะโวคาโด, ลูกเกด หรือปลาทูน่า เป็นต้น เหล่านี้ก็จะช่วยลดอาการบวมน้ำทั้งสิ้น แถมยังมีประโยชน์ต่อสุขภาพอีกด้วยนะคะ
ซึ่งโรคนี้สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน ดังนั้น ก็อย่าประมาทนะคะ โดยมีวิธีสังเกตง่ายๆ ให้เราลองใช้นิ้วกดลงไปยังผิวหนัง ถ้าหากผิวบริเวณที่เรากดลงไปมีลักษณะบุ๋มลงแล้วเด้งกลับช้า แสดงว่าเกิดอาการบวมน้ำขึ้นแล้วล่ะค่ะ ให้รีบไปปรึกษาคุณหมอ อย่าปล่อยทิ้งไว้ให้เนิ่นนานจนอาจนำไปสู่ปัญหาโรคอ้วนขึ้นได้นะคะ
ขอขอบคุณภาพจาก pixabay และ speedprosignsteinbach