เมนูคีโตเจนิค มีอะไรบ้างที่แนะนำ มีประโยชน์อะไรบ้าง สามารถทำกินเองได้หรือไม่

คีโตเจนิค (KITOGENIC DIET) คืออะไร

หลายคนอาจจะเคยได้ยินคำว่า คีโตเจนิค อยู่บ้าง เนื่องจากช่วงนี้กำลังได้รับความนิยมทั้งในเมืองนอกและในบ้านเรา หากจะพูดให้เข้าใจกันแบบง่ายๆสำหรับความหมายของคีโตเจนิค ก็คือ การทานอาหารแบบ Low Carb High Fat (LCHF) หรือ ทานอาหารที่มีส่วนประกอบของแป้ง น้ำตาล และคาร์โบไฮเดรต (Carb) ให้น้อยที่สุดนั่นเอง แต่สำหรับสารอาหารอย่างอื่นจะต้องรับประทานให้พอเหมาะ ซึ่งวิธีการนี้เชื่อว่าเป็นการสลายไขมันภายในร่างกายอย่างหนึ่งและทำให้คนเราดูผอมและน้ำหนักลงได้

เมนูคีโตเจนิค มีอะไรบ้างที่แนะนำ

สามารถอ่านบทความเกี่ยวกับ คีโตเจนิค (KITOGENIC DIET) คืออะไร เพิ่มเติมได้ที่นี่

เมนูอาหารที่เหมาะสำหรับคีโตเจนิคต้องเป็นอย่างไร

เมนูอาหารสำหรับผู้ที่เลือกรับประทานอาหารแบบคีโตเจนิคจะต้องทำการคัดสรรมานั้น ให้เริ่มกันที่การคำนวนสารอาหารที่เราจะได้เสียก่อน โดยเมนูนนั้นจะต้องมีค่าแป้ง น้ำตาล หรือคาร์โบไฮเดรตไม่เกิน 25-50 กรัมต่อวัน ตามด้วยโปรตีนในประมาณที่เหมาะสมกับน้ำหนักตัว คือ 0.8-1.0 กรัม ต่อ น้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม และไขมันดีที่คุณสามารถทานได้ 70-80% ของสารอาหารทั้งหมดที่เราต้องกินในแต่ละวัน

แนะนำเมนูอาหารคีโตเจนิคที่น่าสนใจ

หลายคนอาจจะคิดว่าการเลือกทานอาหารแบบคีโตเจนิคดูจะเป็นอะไรที่ยุ่งยาก แต่ในความเป็นจริงแล้วคุณสามารถเลือกเมนูอาหารที่อุดมไปด้วยไขมันดีๆ ดังนี้

  • ไขมันดี ไม่ว่าจะเป็นอาหารที่ปรุงด้วยน้ำมันมะพร้าว, เนย, น้ำมันหมู & น้ำมันที่ได้จากเบคอน, น้ำมันมะกอก, อโวคาโด่ หรือน้ำมันปลา (fish oil) สามารถนำมาปรุงอาหารได้ แต่ควรหลีกเลี่ยงน้ำมันทรานส์และน้ำมันพืชต่างๆ
  • เนื้อสัตว์ อาหารที่มีส่วนประกอบของเนื้อสัตว์ทุกชนิด คุณสามารถรับประทานได้ เช่น ไก่, เนื้อ, หมู, แกะ, เก้ง, กวาง และอื่นๆ แต่ควรเลือกสัตว์ที่ถูกเลี้ยงด้วยพืชหรือหญ้าเป็นหลัก
  • ปลา เป็นเมนูแนะนำที่คุณควรจะเลือกหามารับประทานไม่ว่าจะเป็น แซลมอน, ปลาน้ำจืด,ปลาทะเล, ปลาทูน่า, ปลานิล หรือปลากระพง รวมไปถึงอาหารทะเลอื่นๆ เช่น กุ้ง หรือปลาหมึกตามธรรมชาติ เป็นต้น
  • ไข่ หนึ่งในอาหารที่เต็มไปด้วยโปรตีน, โอเมกา-3 และไขมันดี สามารถนำมาประกอบอาหารได้หลากหลายเมนูอีกด้วย
  • ผัก อีกหนึ่งอาหารที่น่าเลือกมาประกอบเมนูต่างๆ เช่น ผัดผัก ผัดน้ำมันหอย หรือผัดไข่ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นผักใบเขียวอย่าง ผักโขม, บวบ, สควอชสีเหลือง, บลอคโคลี่, เห็ด, แตงกวา, หัวหอม หรือกระเทียม
  • ถั่วและธัญพืชต่างๆ ในระหว่างวันนั้นคุณสามารถเลือกทานอาหารกลุ่มนี้ได้ เช่น อัลมอนต์,, แมคคาเดเมีย, เม็ดมะม่วงหิมมพาน, เมล็ดทานตะวัน หรือเมล็ดฟักทอง

ประโยชน์จากการรับประทานเมนูอาหารคีโตเจนิค

สำหรับท่านที่เลือกทานเมนูอาหารคีโตเจนิคอย่างเป็นประจำจะช่วยให้คุณไม่หิวง่าย ไม่กินบ่อย ลดน้ำหนักได้ง่ายขึ้น ลดระดับไขมันในช่องท้อง (Visceral fat) ให้น้อยลง ควบคุมความดันโลหิตให้ปกติยิ่งขึ้น และยังทำให้ความการคิดและจดจำดีขึ้นอีกด้วย